Friday, November 01, 2013

ไปเที่ยวเชียงใหม่ ธ.ค.2555 (วันที่2) (อันเก่า)

นอนด้วยความกังวลว่าเพื่อนร่วมห้องจะมาไหม

ตื่นมาตอน 7 โมงเช้าอากาศหนาวมากวันนี้ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดแอร์ หรือหน้าต่างแต่อย่างใด (ดีนะที่เอาเสื้อแจ็กเก็ตเมสเสนเจอร์มาด้วย) อาบน้ำ เตรียมลงไปกินข้าวและเข้าประชุม กำหนดการประชุมแปลกๆ คือให้ไปลงทะเบียนช่วง 10 โมง คงจะเผื่อให้พวกที่ไม่ได้นอนที่โรงแรมเดินทางมาล่ะมั้ง

อาหารเช้าของโรงแรมนี้คุณภาพกลางๆ มีข้าวต้มเครื่อง American Breakfast ไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ไข่คน ตามสไตล์ ตอนลงมากินข้าวรู้สึกปวดหัวมาก คิดไว้2สาเหตุ คือ 1.เมื่อวานนี้ไม่ได้กินกาแฟระหว่างเดินทางมาเลย เพราะคิดว่าคงจะหลับตลอด คงไม่เป็นไร หรือ 2.เมื่อคืนหนาวมากเลยจับไข้ ... สาเหตุแรกพอจะแก้ไขได้ แต่สาเหตุที่สองถ้าป่วยไปอีกหลายวันคงจะเที่ยวต่อไม่สนุกแน่ๆ

ดังนั้นของกินชนิดแรกที่เราพุ่งเข้าใส่คือ กาแฟ ซึ่งเป็นซุ้มกาแฟและชาโบราณ เราก็จัดเลย ปรากฏว่าเป็นกาแฟที่ขมมากใส่นมข้นยังไงก็ยังไม่ดีขึ้นยิ่งกินยิ่งออกอาการผะอืดผะอม กลั้นใจกินจนหมด แล้วไปตักข้าวต้มมากิน จริงๆ อาหารคาวกับข้าวที่กินกับข้าวสวยก็น่าสนใจ แต่ตอนนั้นไม่ไหวจริงๆ กินข้าวต้มวิญญาณปลาหมึกได้นี่ก็ดีมากแล้ว

ห้องอาหารของโรงแรมเชียงใหม่ออร์คิดส์นี้อยู่ชั้น 1 เป็นระเบียงยื่นออกไปติดกับถนนห้วยแก้วเลย ดังนั้นก็คือการกินอาหารกลางแจ้งดีๆนี่เอง แสงแดดส่องมาแต่ความหนาวยังมีอยู่ เราเอาแจ็กเก็ตมาใส่ระหว่างกินไปด้วย อุ่นขึ้นเล็กน้อย กินเสร็จแล้ว ข้ามถนนไป 7-11 ฝั่งตรงข้ามเพื่อซื้อยาพาราเซตามอลมากินกันไว้ก่อนดีกว่า

การข้ามถนนในเชียงใหม่นี้ถือเป็นสิ่งที่ควรฝึกฝนและสังเกตเป็นอย่างมาก รถยนต์จะไม่ชะลอ ไม่หยุดให้คุณข้ามเท่าไร ตามแบบฉบับของเมืองใหญ่ ทางข้ามที่กำหนดไว้จะมีการกดสัญญาณไฟเพื่อให้ไฟจราจรเป็นสีแดงและเราเดินข้ามได้แบบในกทม. แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเดินไปใช้ตรงนั้นเท่าไร ยังคงข้ามกันตามใจอยู่ เราก็ต้องใช้วิธีเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เดินตามคนท้องถิ่นนั่นเอง

ขึ้นไปประชุมพบว่าในห้องประชุมยังไม่มีใครมาเท่าไร จะมีก็แต่เจ้าหน้าที่ของ สท.ที่รับลงทะเบียนไม่กี่คน เขาบอกว่าไปพักผ่อนที่ห้องก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยลงมาใหม่ตอนใกล้ๆ 10 โมง พวกเราก็ไม่รู้จะขึ้นไปทำไมก็เลยเดินเล่นอยู่แถวนั้นเอง ห้องประชุมนี้ ด้านข้างเป็นสระว่ายน้ำ จึงเป็นที่โล่ง ลมพัดตลอดเวลา ในห้องประชุมเป็นห้องขนาดใหญ่หลังคาสูงบุด้วยไม้ทั้งหมด พวกเราพยายามหาจุดที่หลบช่องแอร์จะได้ไม่หนาวมาก ปรากฏว่าไม่สำเร็จเพราะเขาฝังช่องแอร์ไว้ใต้ปีกไม้รอบห้องเลย นั่งตรงไหนก็เย็น เวรกรรม ลองขอให้เขาปิดแอร์เขาบอกว่าไม่ได้เพราะเป็นแอร์เครื่องใหญ่ (ดูไม่สมเหตุสมผลเลย) เราหนาวแต่เราใส่เสื้อยืดไว้ข้างในก่อนใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว แต่น้องคนนึงที่มาด้วยกันไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมา เราเลยสละเสื้อแจ็กเก็ตเราให้น้องเขาใส่ ส่วนเราก็ทนไปก่อน

สายแล้วก็ยังไม่เริ่มประชุม เริ่มมีการเสิร์ฟกาแฟและของว่าง พวกเราซึ่งยังไม่หิวเลยก็ต้องกินอีกแล้ว ถึงกับแซวกันเองว่าทริปนี้มีแต่กินกับนอนนะเนี่ย สงสัยกลับไปจะอ้วนแน่ๆ ได้รู้จักพี่ป้อม ตัวแทนจากเทศบาลนครนครสวรรค์ เป็น ผอ.ฝ่ายสวัสดิการสังคม (เป็นคนที่มีคนพูดถึงเยอะช่วงน้ำท่วมปี2554 เพราะมีขั้นตอนในการขอเงินช่วยเหลือที่เคร่งครัดมาก)

การประชุมเริ่มตอน10โมงกว่าๆ ตามขั้นตอนราชการมีการกล่าวเปิด การอารัมภบทตามระเบียบ โดยสรุปคือต้องการชี้แจงว่าในปี 2556 นี้ จะมีงบประมาณมาให้แต่ละจังหวัดจัดกิจกรรมเพื่อเยาวชนอย่างไร ต้องจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณางบประมาณ ต่างๆ เป็นต้น พูดได้ไม่นานก็ถึงเวลาต้องทานข้าวกลางวันอีกแล้วครับ

ก่อนไปทานข้าวก็มีพี่คนนึงตะโกนขึ้นมาว่าใครอยู่ห้องเบอร์ xxx ครับ ผมยกมือว่าผมเอง เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่จะมานอนกับผมคืนนี้ เขาเอาของเข้าไปเก็บเรียบร้อยแล้ว ชื่อพี่เจี๊ยบครับ มาจากจังหวัดแพร่ เป็นตัวแทนจาก เทศบาลมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิดนะ

พอตอนเที่ยงบรรยากาศความหนาวเริ่มหายไปแล้วกลายเป็นอุ่นๆ ครับ อาการปวดหัวเริ่มดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะพาราหรือกาแฟกันแน่ อาหารกลางวันอร่อยขึ้นมาก กินซะอิ่มจุกเลยคราวนี้ แหะๆ

No comments:

Post a Comment