Sunday, August 20, 2006

ชีวิตวันนี้

จากการที่ไม่สามารถสั่งการบล้อกด้วยการกดที่แป้นบนไออี หรือ ไฟร์ฟอกซ์ได้เหมือนเดิม ทำให้ เกิดความเบื่อหน่ายในขั้นตอนมากที่จะต้องล็อกอินเพื่อที่จะ เขียนแต่ละครั้ง

ชีวิตวันนี้

1.เรื่องการใช้โทรศัพท์ของพนักงาน บางคนก็มีนิสัยในการใช้โทรศัพท์ ที่น่ารำคาญ พูดเสียงดัง มึงมาพาโวย ในร้าน ทำให้รบกวนบรรยากาศการช้อปปิ้งมาก หนำซ้ำพูดในเรื่องธุรกิจส่วนตัว ไม่ใช่ธุรกิจของร้านเสียอีกด้วย เราก็ไม่รู้จะตักเตือนอย่างไร เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้ผิดชอบชั่วดี แต่จริงๆ แล้วปัญหาหลายอย่างที่ผ่านมาให้ปีนี้ ก็เกิดมาจากท่านผู้นี้ทั้งนั้น เพราะเขามั่นใจในความคงแก่เรียนของเค้า และความเหนือ ปัญหานี้แก้ยาก เพราะตัวเขาเองก็มีความมั่นใจในตัวเอง ในแนวทางที่กระทำอยู่มาก บางคนก็พูดว่า เรื่องแบบนี้ พนักงานเก่าแก่ บางทีเราก็ต้องทำเป็นปล่อยๆ บ้าง แต่จริงๆ แล้วมันควรพบกันครึ่งทาง บางเรื่อง ก็ปล่อยได้ บางเรื่อง พนักงานเก่าควรทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พนักงานใหม่ด้วย ไม่อย่างนั้นใครจะเคารพนับถือกันเล่า

2.ต่อเนื่องจากเรื่องที่แล้ว การนำกิจการส่วนตัวมาทำในที่ทำงาน บางทีเราก็เห็นว่าไม่สมควร เช่น ขายของ หรือ นัดพบลูกค้า แต่ร้านเราเป็นบริเวณสาธารณะ ซึ่งจะห้ามแบบนี้ก็คงยาก แต่ก็คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ปฏิบัติ เป็นหลัก วันนี้นอกจากจะประสานงานเรื่องการใช้เรือเพื่อการจุดพลุแล้ว พอตอนบ่ายก็ตั้งท่าจะโทรไปรบกวนใช้พื้นที่สำหรับเก็บสินค้าก่อนด้วย เราเองก็เกรงใจเจ้าของพื้นที่มาก แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เรื่องจุดพลุซึ่งเป็นธุระส่วนตัว ซึ่งก็อาศัยความสนิทสนมของเราไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องนัก
บางทีก็รำคาญใจ และคิดไปว่าหรือเราให้เงินเดือนเขาไม่พอ ทำไมเค้าไม่เอาใจใส่ในงานที่ได้รับมอบหมายเลย แล้วทุกวันนี้เค้าแอบมุบมิบอะไรบ้างหรือเปล่า เก็บเงินแล้วไม่มาจ่าย โอ...เราไม่มีทางรู้เลย

3.คุณลูกค้าวันนี้ มีคนที่น่าสรรเสริญคนหนึ่ง คือ คุณพยาบาลจากบ้านกล้วย ซื้อลูกโลกหนึ่งอัน และซีดีรอมสอนภาษาอังกฤษ สองชุด ดีมาก ให้บัตรสมาชิกไปหนึ่งใบ วันหลังพี่เค้าจะได้มาซื้ออีกเพราะมีส่วนลด หรือเปล่า?

ส่วนลูกค้าอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่ปากกาเขียนไม่ติดคราวที่แล้วที่มาว่าเรา เราก็บอกว่าให้เอามาเปลี่ยนได้ วันนี้ก็ไม่ได้เอามาหรอกนะ แต่คุณคนนี้ทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก ตรงที่เค้าเิดินไปดูสินค้าอย่างนึงแล้วบอกเราว่า

ทำไมมันแพงจังเนี่ย ที่โรงเรียนขายแค่ 50 เองนะ ที่นี่ขายตั้ง 55
แล้วคุณแม่กับคุณลูกที่มาด้วยกันก็ทำหน้าทำตารังเกียจของของเราขึ้นมาซะงั้น
เราก็บอกว่า ก็ปกตินี่ครับ ไม่ได้ตั้งราคาเกินเหตุเลย ราคานี้แหละครับน่าจะถูกต้องแล้ว
เธอก็ยัง ไม่ยอมลดละ
เราก็บอกว่าเค้าอาจจะรับของมาขายจากคนละที่กันก็ได้ครับเลยราคาทุนมาไม่เท่ากัน
เค้าก็บอกด้วยเสียงอันดังว่า แต่นี่แพงกว่ากันตั้งห้าบาทนะ
เราก็บอกว่า แต่ที่โรงเรียนเค้าเปิดขายแค่จันทร์ถึงศุกร์นะครับ ที่นี่เราเปิดทุกวันเลย
แต่ที่โรงเรียนหนูเปิดวันเสาร์อาทิตย์ด้วยอ้ะ
นั่นสิ เด็กก็ไปซื้อที่โรงเรียนได้อยู่แล้วทุกวันนี่จ้ะ

เอ้ะพี่ครับผมจำได้ว่าผมชวนพี่สมัครสมาชิกแล้วหรือเปล่าครับ คราวที่แล้วผมชวนพี่สมัครสมาชิกแล้วหรือยังครับ
อ๋อ สมัครแล้ว พี่ได้บัตรมาแล้ว
งั้นอย่างของชิ้นนี้ มัน 55 บาทใช่มั้ยครับ พอลด 10 เปอร์เซ็นต์ ก็เหลือก 49.50 บาท แล้วถูกกว่าโรงเรียนแล้วนี่ครับ
แหม แค่ห้าสิบสตางค์เอง
ก็ถือว่าถูกกว่านิดหน่อยแล้วนะครับ
อ้าวแล้วทำไมไม่ตั้งราคา 50 ไปเลยล่ะ
ก็ต้องมีไว้เพื่อให้ลูกค้าที่มาประจำแบบพี่บ้างไงครับ ถ้าไม่มาประจำ ไม่ได้เป็นสมาชิกก็ไม่ได้ลดราคาไงครับ
หืมมมมมมมมม.....อ้ะ เอาก็ได้ สองอันนะ
พี่ครับเวลาพี่ซื้อของนี่น่ะครับเวลาอันไหนของผมถูกกว่าชาวบ้านเค้าพี่ช่วยบอกต่อด้วยสิครับ ไม่ใช่บอกแต่อันที่ราคาแพงกว่าอย่างเดียว อย่างนี้ผมก็แย่สิครับ เวลาของถูกไม่เห็นมีคนชมเลย

แต่สรุปแล้วพี่เค้าก็ซื้อไปสองอันรวมกันกับของอย่างอื่นอีกจนได้

เฮ้อ บีบคั้นจริงๆ ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ความต้องการของคนนี่มันไม่สิ้นสุดจริงๆ

---------------------------
จบแล้วครับ