Wednesday, May 06, 2009

ความทุกข์ของวันศุกร์ที่แล้ว

วันที่ 24 เมษายน 2552

วันนี้ตื่นนอนสายไปหน่อย นอนบ้านญาติที่มีนบุรี มีแผนว่าวันนี้ต้องไปซื้อหนังสือที่ตกค้างที่ต้องจัดเข้างบของโรงเรียนที่บ้าน
มี เป้าหมายในใจสองที่คือที่ ศึกษาภัณฑ์ลาดพร้าว หรือไม่ก็แถวผ่านฟ้า ที่ขายหนังสือเยอะๆ คิดว่าคงไปผ่านฟ้าดีกว่า เพราะว่าที่ศึกษาภัณฑ์อาจจะมีไม่ครบ
เราจะไปผ่านฟ้าอย่างไรดี

นั่งเรือคลองแสนแสบจากนิด้า
นั่งรถตู้จากมีนบุรี แล้วไปต่อรถเมล์ที่อนุสาวรีย์

คิดๆ
เออ นึกขึ้นได้ว่า ต้องเอาขนมที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นไปให้พี่ที่บีทูเอสด้วยนี่นา เพื่อนๆ ในกลุ่มฝากฝังมา เพราะคนอื่นๆเค้าทำงานประจำกันหมด เรามันว่างงาน
แล้ว ก็เอาของทั้งหลายใส่ลงกระเป๋า แซมโซไนท์ ที่เอาเช็คช่วยชาติ ไปซื้อมา (เช็คช่วยชาติสองพัน แลกคูปองเงินสดได้ สองพันสอง ที่เดอะมอลล์ครับ)
เอา โน้ตบุ๊คไปด้วยดีกว่า นัดกับเพื่อนๆแคทแมนว่า จะแวะไปถ่ายรูปที่ร้านลอฟท์ สยามด้วย ซึ่งก็ทำจดหมายแฟกซ์ไปหาเค้าแล้ว ชื่อคุณจินตนา ว่าให้ไปบอกที่ประชาสัมพันธ์ได้เลย
ก็อุ่นใจ อ้ะ เตรียมพร้อมแล้วออกเดินทางดีกว่า

สรุป ไปด้วยรถตู้ครับ ไปอนุสาวรีย์ชัยดีกว่า เร็วดี ไม่เปียกน้ำคลองด้วยครับ พอถึงอนุสาวรีย์ตอนแรกจะไปผ่านฟ้าก่อน แต่พอดี เพื่อนโทรมาบอกว่า วันนี้ต้องลงทะเบียนเรียนนะเว้ย
วันสุดท้ายแล้วด้วย ต้องหาที่ลงแล้ว เราก็ตกใจ แต่ก็ขอบอกขอบใจ ด้วย มีเพื่อนส่ง sms มาด้วยหลายคน คงเป็นห่วงเราที่เป็นคน ตจว. กลัวจะพลาด เราเลยส่งต่อให้พี่โจ๋ด้วย บ้านเดียวกัน

เลยเปลี่ยนแผน ไปสีลมบีทูเอสก่อนดีกว่า จะได้หมดไปเรื่องนึง นั่งรถเมล์ไปท่าน้ำสี่พระยา (เข้าใจผิดว่าท่าน้ำอยู่สุดถนนสีลม จริงๆ ไม่ใช่)
เลยต้องลงกลางทางแล้ว เสียเวลาเดินข้ามซอยไปอีก ระหว่างทางผ่านรถติดแถวจุฬา ก็คิดว่าจะต่อเน็ดไร้สายได้มั้ยนะ จะไ้ด้ลงทะเบียนเลย สรุป ไม่ได้ อ้ะ ไม่เป็นไร

ไปถึงสีลม ก็เอาของไปให้พี่เค้า เราก็ดันจำหน้าพี่เค้าไม่ได้อีก เดินขึ้นลิฟท์มาพร้อมกัน ดันไม่ทักเค้า ต้องมาถามรีเซฟชั่นที่ออฟฟิสเค้า แล้วป้าก็บอกว่า ก็คนที่อยู่หน้าลิฟท์ไงคะหนู อ้ะ ครับๆๆ เอาของให้เสร็จแล้วรีบออกมา หาร้านเน็ต วะ ไม่มีเลย เครื่องเราก็จับสัญญาณอะไรไม่ได้เลย นี่อยู่สีลมนะเนี่ย ไม่ใช่ ศรีสะเกษ วะ

เดินออกมาหน้าตึกเจอะท้อ ปซุปเปอร์มาเก็ต เดี๋ยวนี้มันทำหน้าตึีกอลังการขนาดนี้เลยเหรอนี่ เจอน้องคนนึง พุ่งเข้ามากะจะให้ช่วยบริจาค ให้องค์กร ยูนิเซฟ เค้าถามว่าเคยเห็นใบอย่างนี้ในซองบัตรเครดิตมั้ยคะ บอกเค้าไปว่า ไม่เคยครับ ไม่มีบัตรเครดิต เค้าดูแปลกใจเล็กน้อย แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่คะ ตกงานครับ ไม่ได้ทำงาน เลยไม่ได้เงินเดือน แล้วก็ไม่มีบัตรเครดิตด้วย อ้อ ค่ะ งั้นถ้าวันไหนพี่มีบัตรเครดิตแล้วอย่าลืมบริจาคนะคะ จบการหาประโยชน์จากเรา ตาเราหาประโยชน์จากน้องเค้าบ้าง น้องครับ จากนี่ไปผ่านฟ้าไปยังไงให้เร็วครับ (ตอนนั้น สามโมงแล้ว) อ๋อ พอดีหนูบ้านอยู่แุถวนั้นพอดีค่ะ (บุพเพสันนิวาส) หนูก็นั่งรถมอไซต์นะคะ ไปต่อรถไฟฟ้าลงสนามกีฬา แล้วก็ต่อมอไซต์ ค่ะ เร็วมากนะคะ ขอบคุณครับ แต่สรุปนั่งรถแทกซี่ (อ้าว)

รถแทกซี่พาไปทางหัวลำโพง เยาวราช ซอกแซกไปซักพัก ก็ถึงยังร้านหนังสือผ่านฟ้าจุดหมายของเรา ระหว่างอยู่ในรถก็กังวลใจ เอาคอมมาเปิดเช็คไวร์เลสตลอดว่าแถวไหนมีใครเปิดไว้ให้ใช้ฟรีบ้างมั้ย แต่ก็ไม่ได้เลย

ถึงร้านหนังสือแล้วรีบซื้อแล้วฝากเค้าไว้ บอกว่าเดี๋ยวกลับมา แถวผ่านฟ้า ถนน นครสวรรค์ (บ้านเราแท้ๆ) กลับไม่มีร้านอินเตอร์เน็ตเลย ตอนนั้น สามโมงครึ่งได้แล้ว ถามตำรวจ ถามมอไซต์รับจ้าง ถามเด็กนักเรียน(ซึ่งดูน่าจะเป็นลูกค้าหลัก) ก็ยังไม่ได้คำตอบ จนเจอป้าขายก๋วยเตี๋ยวบอกว่าตรงไปแถวถนนพะเนียงจะมีร้านนึง วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยมาก

ร้านที่เจอเป็นร้านเล่นเกมส์ออนไลน์เป็น หลัก เด็กแว้นสก้อยส์ กันเต็มร้านเลย แทรกตัวเข้าไปนั่ง จ่ายเงินเจ้สิบบาท เล่นได้ครึ่งชั่วโมง รีบเข้าเว็บ แล้วลงทะเบียนตามที่พี่นกโทรมาบอก รีบๆๆๆ อีกห้านาที จะสี่โมงแล้วเฟ้ย อ้าาาาาาาา ลงสำเร็จ ในที่สุด

เดินออก มากลับไปที่ร้านหนังสือ ผ่านโซนที่ขายกล้วยแขก หิวแฮะ แต่ไม่กิน ไปหาข้าวกินดีกว่า กลับไปที่ร้านหนังสือ ป้าเค้าบอกว่า นึกว่ากลับบ้านไปแล้ว ป้ากำลังเอานส.ไปเก็บแล้วนะเนี่ย จ่ายเงินป้า แล้วก็ออกมา ไปกินข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ฝั่งตรงข้าม กินไปคิดไปว่า เอ..แล้วเราจะไปสยามจากตรงนี้ยังไงวะ แทกซี่อีกหรือเปล่า มองไปทางไหนก็ไม่มีรถเมล์เลยแฮะ แล้วตอนเค้าประท้วงเสื้อแดง เค้าเอารถเมล์จากไหนมาเผาหว่า หรือว่า ที่ไม่มีเพราะว่าโดนเผาไปหมดแล้ว

ออก จากร้านข้าว เดินลงมาเรื่อยๆ ไปทางสนามม้านางเลิ้ง เพราะคิดว่าทางนั้นน่าจะไปโผล่กิ่งเพชร หรือ แุถวโรงพยาบาลมิชชั่นได้ เดินๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยอีกแล้ว เดินจนสุดถนนนครสวรรค์ ก็จะเจอสนามม้า แล้วไงต่อ ข้ามไปถนนอีกฝั่งดีกว่าเผื่อจะขึ้นรถอะไรก็ได้ไปทางนี้แหละ

ไฟแดงพอดี ข้ามๆๆ วิ่งๆๆๆ เดินมาถึงโรงเรียน ราชวินิต ที่มีป้ายรถเมล กำลังจะอ้าปากถามคนแถวนั้นพอดี

กริ้งๆ ตู้ดๆๆ โทรศัพท์ดังๆ สั่นๆ ยกขึ้นมาดู น้องหญิง (โทรมาทำไมหว่า)

ฮาโหลน้องหญิง

(ทำเสียงตื่นเต้น)พี่เติ้ง พี่เติ้ง อยู่ไหนอ้ะ

อยู่กรุงเทพแถวสนามม้า

เหรอๆ นี่พี่เติ้งเมื่อกี้ พี่เติ้งเพิ่งวิ่งข้ามถนนใช่มั้ย

เออ ใช่

นี่หญิงอยู่ในรถกับชัย รถมาสด้าสามสีขาว ติดอยู่ที่สี่แยกเนี่ย พี่เติ้งวิ่งมาขึ้นรถเร็วๆๆๆ เดี๋ยวไฟเขียว

เหรอๆๆๆ ไหนๆๆๆๆๆ (วิ่งๆๆๆๆๆๆ หาอีกแล้ว)

เจอ แล้ว โดดเข้าไปนั่ง เฮ้อ หัวเราะกันแทบตาย ฟลุ้กมากๆ กำลังหมดหวังทีเดียว พวกนี้กำลังไปเรียนเซอร์วิส ผมบอกว่า แต่แคทแมนไม่มีเรียน จะไปลอฟท์น่ะ ได้เลย เดี๋ยวไปส่งให้

โชคดีจริงๆ หิวน้ำมาก กินกาแฟที่เหลือของน้องหญิงจนหมดแก้ว แหะๆ

แต่ พอถึงที่แล้ว กลับเจอเรื่องแจ๊คพ๊อตอีก คือ คุณจินตนาที่บอกไว้ตอนแรก บอกว่า ยังให้ถ่ายไม่ได้นะคะ เพราะว่า ต้องขออนุญาตผู้ใหญ่อีกที อ้าว เวรกรรม แล้วทำไงดีวะมาถึงนี่แล้ว อุตส่าห์รีบมา เอาวะ งั้นก็ไปหาวิธีถ่ายนิดๆหน่อยๆพอละกัน

เจอเพื่อนในกลุ่มส่วนที่เหลือ แล้วก็ทำงานแคทแมนกัน

ถ่าย รูปแล้ว แบ่งงานแล้วก็ไปกินกันต่อที่ร้านประจำของพวกเราแถวศูนย์สิริกิติ์ ตอนแรก จะไปสวนลุมไนท์ แต่ว่าหาที่จอดรถไม่ได้เลยเปลี่ยนที่ดีกว่า

กินแล้วก็กลับบ้านมีนบุรี
----------------------------------------
อ่านมาจนจบแล้วคิดว่าไงครับ กิจกรรมในหนึ่งวันของผม อัดแน่นไปด้วยสาระ บันเทิง โชคดี โชคร้าย เยอะแยะนะครับ
แต่โดยรวมก็นับว่าโชคดีมากกว่านะครับ เช่น

- ได้ลงทะเบียนทั้งๆที่มันฉุกละหุกขนาดนั้น ถึงแม้เอาคอมมาก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าลงไม่ทันจะทำไงว้า
- ได้ซื้อหนังสือไปขายที่บ้านทันเวลา
- เจอหญิงกับชัยมารับไปสยามได้
- เอาของไปให้พี่บีทูเอสได้

ก็เลยจะบอกเพื่อนๆว่า ในเรื่องเฮงซวยประจำวัน มันก็แอบมีเรื่องดีๆ โผล่เข้ามาบ้างได้นะครับ อย่าเพิ่งหมดหวังในการดำเนินชีวิตนะครับ
เอาเรื่องหนึ่งวันของเพื่อนๆมาแชร์กันบ้างสิครับ