Sunday, November 22, 2009

งาน One day sale องค์การค้าของคุรุสภา ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์

ไปงาน One day sale มาตั้งแต่หลายเดือนก่อน มาเจอไฟล็ที่ได้พิมพ์ไว้ตอนฟังวิทยากรแล้วอึดอัดมาก นำมาแบ่งปันความอึดอัดให้ทั่วกันก่อนลบทิ้งแล้วครับ

=======================================================

องค์การค้าของ สกสค.

เนื้อหาที่ถูกต้อง ภาษาที่เหมาะสมกับวัยของผู้อ่านร้านดูทันสมัยเกินไปนะ ปกติไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะหน่อย
อย่าลืมซื้อนส.ตามล่านะเฟ้ย

เค้าบอกว่าปริมาณการพิมพ์ หกสิบล้านเล่มต่อปี ว้าว แล้วทำไมกูไม่มีขายวะ

เริ่มมาก็รอนานจนสิบโมงถึงจะเริ่มงานได้ เพราะปลัดยังไม่มา เริ่มมาก็มีการอธิบายประวัติของอค.และสินค้าต่างๆ
อค.มีโรงงงานที่ บางบอนสองแห่ง และ ราชบพิธหนึ่งแห่ง

มีร้านที่ดูทันสมัยร้านนึง ร้านที่ดูทันสมัยอยู่รังสิตหรือเปล่า?

การทำแผนและกุลยุทธ?
เพื่อเพิ่มการจำหน่ายทุกภูมิภาค
ทั้งหมด สิบแห่ง ราชดำเนิน ลาดพร้าว ราชบพิธ สนามกีฬา ท้องฟ้าจำลอง ครุสภา สำโรง ฟิวเจอร์ปาร์ค อ้อมน้อย และ อุตรดิตถ์ (ไปเปิดทำไมที่นั่น)
มีร้านค้าอีกสามร้อยแห่ง ท่านสามารสั่งทางไปรษณีย์ ท่านสามารสอบถามได้ที่ 025144007 www.suksapan.or.th เพื่อชี้แจงและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า (จริงเร้อ)
เอานส.ราชากะฤาษีมาโชว์ว่าสินค้าเยอะ แต่เป็นนส.ของแปลนฟอร์คิดส์นะเฟ้ย
ด้วยศรัทธาและยึดมั่นในองค์กร องค์การค้าของครุสภายุคใหม่เพื่อการศึกษาไทยก้าวหน้า
ในวันที่ 1 เมษาปี 53 จะมีอายุครบ 60 ปี ว้าว ทำได้แค่นี้แหละ

พอดูจบก็ให้คุณ ชินภัทร ภูมิรัตน์ขึ้นบนเวทีกล่าวเปิดงาน
เค้าเป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการรักษาการในตำแหน่ง
ผู้แทนจาก สสวท. ผู้แทนจาก สพฐ. (กล่าวต้อนรับแบบข้าราชก้านข้าราชการ)

มีตัวแทนเดิม ร้อยห้าสิบราย ตัวแทนใหม่อีก สี่สิบกว่าคน รวมแล้วก็อยู่ที่ 201 ราย

เค้าบอกว่าเรามาสมัครโดยสมัครใจแน่ะ เน้นแล้วเน้นอีก
คุณคนที่มาเป็นพิธีกรชายชื่อคุณแดง มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าคนนั้นคนนี้ซื้อได้ยอดลดลง มาประจานคนออกอากาศมีสิทธิ์อะไร
มาบอกว่าไม่เป็นไรหรอกเพราะป้าเค้ามีเงินเยอะ ทำไมเริ่มงานด้วยความขุ่นข้องหมองใจ ไม่เข้าใจ

ท่านเข้าใจหรือไม่ว่าการปฏิรูปการศึกษาที่บอกว่าจะเปิดเสรี
เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ต้องปรับคุณภาพให้ตรงกับผู้บริโภค
คือครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง
อค.ต้องปรับปรุงการทำงาน แต่ยังต้องดำรงไว้ซื้อภาระกิจหลักสองเรื่อง
คือ เราต้องรักษาระดับของราคาไม่ให้สูงเกินไปเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อผู้บริโภค
เราจะต้องรักษาคุณภาพให้สูงเพื่อเป็นบรรทัดฐานของสื่อและแบบเรียนที่มีคุณภาพ
การดำเนินการสองอย่างนั้นเป้นภาระของต้นทุนการผลิต
แบบเรียนที่พิมพ์มานั้นได้รักษาระดับราคาตั้งแต่สี่หกเป็นต้นมา
ทั้งๆที่ค่ากระดาษสูงขึ้นทุกปี
นอกจากนั้นในการประมาณค่าใช้จ่ายในการเรียนฟรีก็ใช้ราคาปกลดไปยี่สิบเปอร์เซ็นต์
แต่ก็เป็นสิทธิ์ของโรงเรียนที่จะเลือกซื้อ
เป็นเหตุที่ทำให้เรามีมาร์จินน้อย ท่านก็ทราบดีว่ามารจินเหลือไม่มาก
มีส่วนลดที่แคบลง เสียเปรีบบแบบเรียนของเอกชน
เราคงต้องมีการเจรจาตัวเลจประกอบการประมาณการให้มีการชัดเจนมากขึ้น ต้องมีการพิจารณาถึงต้นทุนต่างๆ ถ้ารัฐไม่มีนโยบายในการปรับราคาหน้าปกของแบบเรียน
งั้นก็ต้องมีการประมาณการในการตั้งงบประมาณให้มีมาร์จินมากขึ้น
อาจจะมีแนวทางให้ลดในนโยบายแค่ สิบห้าเปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
จะทำให้มีกำไรมากขึ้น
อาจจะสร้างแรงจูงใจให้กับตัวแทนจำหน่าย
หน้าที่ขององค์การค้า เรายังมีภาระต่อไปคือการกระจายหนังสือและแบบเรียนไปยังสถานศึกษาให้ทันเวลา
ในปีห้าสองนี้มีอุปสรรคไม่ทันเวลาเปิดเรียน สิ่งที่เราจะดำเนินการใหม่ในปีห้าสาม คือต้องเพิ่มจำนวนตัวแทนในการจำหน่ายแบบเรียนให้มากขึ้น ถ้าเรามีร้านค้าตัวแทนมากเท่าไหร่ หนังสือจะไปถึงตัวผู้เรียนมากขึ้นกว่าเดิม (คิดได้ไงวะ ถ้าของไม่ผลิตมาจะส่งได้ไง) ต้องการสนองนโยบายเรียนฟรี มีประสิทธิภาพที่สุด

อยากจะขอความร่วมมือจากเครือข่ายที่มาร่วมให้มีส่วนช่วยขายแบบเรียนแปดกลุ่มสาระ เพราะว่าคิดว่ามีมาตรฐานแล้ว

เราต้องการสร้างความเป็นธรรมในการสร้างรายได้ให้แก่ตัวแทนจำหน่าย (อย่างไรที่เรียกว่าเป็นธรรม?)

ต้องการสร้างระบบใหม่ จะมีกรรมการติดตามและเร่งรัดต้นฉบับและหนังสือเรียน ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากกระทรวง สสวท และองค์การค้า เพื่อให้ได้แบบเรียนทันตามกำหนดเวลา

ต้องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์การค้าและร้านค้า มีเจ้าหน้าที่ไปรับฟังปัญหาอย่างสม่ำเสมอ

มีการจัดการอบรมโดยใช้สื่อขององค์การค้า ให้สร้างสื่อเพิ่มเติม

(คุณธรรมนูญ)

เป็นการรับสมัครอย่างสมัครใจ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แสดงให้เห็นถึงว่า
"ท่านยังมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจกับองค์การค้า"
"ท่านมองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจร่วมกับองค์การค้าสืบไป"

การกระจายสินค้าไปใช้ โรงเรียนไม่กล้าหรอกครับที่จะนำหนังสือที่ไม่มีลิขสิทธิ์มาใช้
ท่านมั่นใจได้ว่าหนังสือจากอค.เป็นนส.ที่มีลิขสิทธิ์
(อะไรของมัน นี่เรากังวลเรื่องลิขสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อไหร่)

onedaysale อค.พิจารณาให้ส่วนลดที่สูงที่สุด

แต่ไม่ได้หมายความว่าหลังจากวันนี้จะไม่มีส่วนลดใดๆ
เค้าจะพยายามให้เรามีกำไรมากขึ้น
พ้นจากวันนี้ไปแล้วก็จะประกาศเรื่องส่วนลดต่อไป
อาจจะเป็นหลักการเดิมหรือปีที่ผ่านๆมา
ทำเป็นระบบขั้นบรรไดตามสเต็บ ซึ่งท่านก็จะรับฟังการประกาศกันต่อไป
(วะ ทำไมไม่บอกตอนนี้เลยล่ะ)

ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ท่านต้องการทราบในวันนี้ (ก็นั่นสิต้องการทราบวันนี้แล้วบอกมั้ย?)

ขั้นตอนการเปิดงานตลกจริงๆ เหมือนเรียกผู้บริหารขึ้นไปแล้วช็อตไฟฟ้า
ถ้าเวทีพังลงมาวงการศึกษาคงเจริญขึ้นมาก
เรียกตัวแทนขึ้นไปถ่ายรูปบนเวที ไม่เคยเห็นความกระอักกระอ่วน อิหลักอิเหลื่อมากขนาดนี้มากก่อน ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปตอนไหน อย่างไร
ทำไมไม่ทำแบบงานแต่งงานวะ เดินเข้ามาแล้วถ่ายเลย ก็ช่วยไม่ได้ ประธานดันมาสายเอง
=====================================

ต่อหลังเบรค
เจ้าหน้าที่ สสวท. สพฐ.(กรมวิชาการเดิมหรือ?)
หลักสูตรห้าหนึ่ง กับแกนกลางเหมือนกันหรือไม่อย่างไร
เปิดเทอมมาจะมีหนังสือสองหลักสูตร
คือ สี่สี่ และ แกนกลางห้าหนึ่ง
ป.1-6
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ความต้องการของท้องถิ่น
สระการเรียนรู้เพิ่มเติม

หลักสูตรห้าหนึ่ง
ปรับให้มีเนื้อหาน้อยลง
มีความชัดเจนมากขึ้น
มีวิสัยทัศน์
มีกิจกรรมการเรียนรู้มากขึ้น
มีการเรียนรู้เรื่องท้องถิ่นของตัวเองมากขึ้น
สิ่งทีท่านต้องทำความเข้าใจหลายอย่างจัง
ข้อมูลละเอียดขนาดนี้ทำไมไม่ทำเอกสารมาแจกเลยนะ

หลักสูตรห้าหนึ่งจะเป็ฯสามกลุ่ม ประถม ม.ต้น ม.ปลาย สามอย่าง
ไม่แบ่งเป็นช่วงชั้นแล้วนะ

เอกสารการประเมินผล ปพ.จะเปลี่ยนไปด้วย
ประถมจะประเมินเป็นรายปี
มัธยมจะประเมินเป็นรายภาค
เนื้อหายังเป็นแปดกลุ่มสาระการเรียนรู้เหมือนเดิม
มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาไม่มากกว่า สามสิบเปอร์เซ็นต์
วิชาสังคมศึกษาจะเปลี่ยนแปลงมากกว่าสาระอื่นๆ
โรงเรียนนำร่อง ใช้หนังสือที่ไม่ได้รับอนุญาตกันเลยในเรื่องสังคมศึกษา
รายการที่เปลี่ยนแปลงได้บอกไว้ในเว็บไซต์ แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้ใช้ทั่วประเทศ
งงแฮะ
SENG Suksapan Education Network Group

ชุดการเรียนการสอน
ตรวจการประเมินก่อนจำหน่าย การประเมินหลังจำหน่าย
จากงานวิจัยคิดว่าวิชาเสริม เช่น สุขพละศิลป์การงานอังกฤษมีความผิดพลาดไม่มากนัก
ฝากให้ดูใบอนุญาตหลังปกด้วย
มีใบรับประกันคุณภาพสื่อด้านหลังด้วยโดยผู้ตรวจของสำนักพิมพ์
ให้เข้าไปดูในเว็บของสพฐ.ได้

สาระการเรียนรู้พื้นฐาน โรงเรียนซื้อได้ แต่สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ผู้ปกครองต้องดูแลเอง
แบบฝึกกำหนดให้ซื้อได้เฉพาะระดับประถมศึกษาเท่านั้น
การจัดซื้อก็ตามนโยบายเรียนฟรี ภาคีสี่ฝ่ายเหมือนเดิม ครุ ผู้ปกครอง กรรมการนักเรียน ผู้แทนชุมชน
ต้องจัดซ์อร้อยเปอรเซ็นต์ คือ 1,4

มีบัญชีสื่อการเรียนรู้สองอัน คือพื้นฐาน และ เพิ่มเติม
ไม่ต้องการให้ครุนักเรียนใช้หนังสือเรียนแต่เพียงอย่างเดียว ต้องการใช้สื่ออย่างอื่นด้วย
เพื่อให้นักเรียนได้เรียนมากกว่านั้น
ในโรงเรียนนำร่องใช้มาแล้วจะมีความพร้อมคุณภาพในเรื่องนี้
เพราะพวกนั้นเค้าเลือกอย่างหลากหลายแล้ว
มีปัญหาการกระจายการเข้าถึง วันนี้จึงเกิดขึ้น
เค้าอยากให้เราเป็นตัวกระจายน่ะ อยากให้ร้านค้าตัวแทนช่วยกระจายเข้าถึงทุกคน
โรงเรียนไม่ได้รับการเหลียวแลจากร้านค้า ร้านค้าไปดูแลเฉพาะโรงเรียนใหญ่ๆ จริงหรือ?


หลักสูตรต่างกันเล็กน้อยไม่เกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ ยังใช้กันได้ใช่ไหม
สสวท. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ไม่เห็นมีใบอนุญาตให้ใช้ในโรงเรียน? เพราะว่าถือว่าตัวเองเป็นหน่วยงานของกระทรวงอยู่แล้วจึงไม่ต้องมีนส.อนุญาตก็ได้
การออกแบบและเทคโนโลยี
วิทย์ คณิต ป.1 เทคโน ป.1
จะออก ป.2 ในปี ห้าสี่
การออกแบบเทคโนโลยีในชั้น ป.2
ม.ต้น มีทั้งเพิ่มเติมและพื้นฐาน คณิตศาสตร์
สำหรับเด็กที่จะเรียนต่อม.ปลาย หรือ อาชีวะ ควรจะจัดให้เรียนเพิ่มเติมด้วย
ครูตามโรงเรียนบางแห่งไม่ได้จบตรงเอกมาสอน
บางคนจบเอกประถมศึกษา เป็นต้น ดังนั้นท่านควรจะนำคู่มือครูไปเสนอขายด้วย
ครูที่จบไม่ตรงจะได้สอนได้ตรงขึ้น (แล้วในความเป็นจริงมีทำออกมาขายมั้ย)
แบบฝึกหัดระดับประถมก็ยังเฉลยลำบากด้วย ช่วยนำคู่มือครูไปเสนอพร้อมกับหนังสือเรียนด้วย
ท่านอาจารย์จารุวรรณ

องค์การค้าก็จัดทำกพอ.บ้าง มีใบอนุญาต คือ งานบ้าน งานเกษตร เป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสสวท.
ในส่วนของสังคมศึกษาก็จะมีขององค์การค้าขึ้นมาแข่งขันอีกด้วย
ต้นฉบับมีความพร้อมอย่างไร
มีการผลิตให้ทันการจำหน่ายหรือไม่อย่างไร
สพฐ. จะส่งจัดพิมพ์ในเดือนตุลาคม นี้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
ในขณะนี้ก็บอกไว้เท่านี้ก่อน
สสวท. คณิต วิทย์ สสวท์ส่งต้นฉบับจัดพิมพืให้กับองค์การค้าแล้วแต่รูปเล่มยังไม่เรียบร้อย
แล้วจะพิมพ์ได้ต่อไป ส่วน ม.1 ม.4 เราจะทำต้นฉบับไปให้ได้เลย

ส่วนการตรวจของเอกชน ก็จะตรวจเสร็จในช่วงธันวาคม

Wednesday, September 16, 2009

Wednesday, May 06, 2009

ความทุกข์ของวันศุกร์ที่แล้ว

วันที่ 24 เมษายน 2552

วันนี้ตื่นนอนสายไปหน่อย นอนบ้านญาติที่มีนบุรี มีแผนว่าวันนี้ต้องไปซื้อหนังสือที่ตกค้างที่ต้องจัดเข้างบของโรงเรียนที่บ้าน
มี เป้าหมายในใจสองที่คือที่ ศึกษาภัณฑ์ลาดพร้าว หรือไม่ก็แถวผ่านฟ้า ที่ขายหนังสือเยอะๆ คิดว่าคงไปผ่านฟ้าดีกว่า เพราะว่าที่ศึกษาภัณฑ์อาจจะมีไม่ครบ
เราจะไปผ่านฟ้าอย่างไรดี

นั่งเรือคลองแสนแสบจากนิด้า
นั่งรถตู้จากมีนบุรี แล้วไปต่อรถเมล์ที่อนุสาวรีย์

คิดๆ
เออ นึกขึ้นได้ว่า ต้องเอาขนมที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นไปให้พี่ที่บีทูเอสด้วยนี่นา เพื่อนๆ ในกลุ่มฝากฝังมา เพราะคนอื่นๆเค้าทำงานประจำกันหมด เรามันว่างงาน
แล้ว ก็เอาของทั้งหลายใส่ลงกระเป๋า แซมโซไนท์ ที่เอาเช็คช่วยชาติ ไปซื้อมา (เช็คช่วยชาติสองพัน แลกคูปองเงินสดได้ สองพันสอง ที่เดอะมอลล์ครับ)
เอา โน้ตบุ๊คไปด้วยดีกว่า นัดกับเพื่อนๆแคทแมนว่า จะแวะไปถ่ายรูปที่ร้านลอฟท์ สยามด้วย ซึ่งก็ทำจดหมายแฟกซ์ไปหาเค้าแล้ว ชื่อคุณจินตนา ว่าให้ไปบอกที่ประชาสัมพันธ์ได้เลย
ก็อุ่นใจ อ้ะ เตรียมพร้อมแล้วออกเดินทางดีกว่า

สรุป ไปด้วยรถตู้ครับ ไปอนุสาวรีย์ชัยดีกว่า เร็วดี ไม่เปียกน้ำคลองด้วยครับ พอถึงอนุสาวรีย์ตอนแรกจะไปผ่านฟ้าก่อน แต่พอดี เพื่อนโทรมาบอกว่า วันนี้ต้องลงทะเบียนเรียนนะเว้ย
วันสุดท้ายแล้วด้วย ต้องหาที่ลงแล้ว เราก็ตกใจ แต่ก็ขอบอกขอบใจ ด้วย มีเพื่อนส่ง sms มาด้วยหลายคน คงเป็นห่วงเราที่เป็นคน ตจว. กลัวจะพลาด เราเลยส่งต่อให้พี่โจ๋ด้วย บ้านเดียวกัน

เลยเปลี่ยนแผน ไปสีลมบีทูเอสก่อนดีกว่า จะได้หมดไปเรื่องนึง นั่งรถเมล์ไปท่าน้ำสี่พระยา (เข้าใจผิดว่าท่าน้ำอยู่สุดถนนสีลม จริงๆ ไม่ใช่)
เลยต้องลงกลางทางแล้ว เสียเวลาเดินข้ามซอยไปอีก ระหว่างทางผ่านรถติดแถวจุฬา ก็คิดว่าจะต่อเน็ดไร้สายได้มั้ยนะ จะไ้ด้ลงทะเบียนเลย สรุป ไม่ได้ อ้ะ ไม่เป็นไร

ไปถึงสีลม ก็เอาของไปให้พี่เค้า เราก็ดันจำหน้าพี่เค้าไม่ได้อีก เดินขึ้นลิฟท์มาพร้อมกัน ดันไม่ทักเค้า ต้องมาถามรีเซฟชั่นที่ออฟฟิสเค้า แล้วป้าก็บอกว่า ก็คนที่อยู่หน้าลิฟท์ไงคะหนู อ้ะ ครับๆๆ เอาของให้เสร็จแล้วรีบออกมา หาร้านเน็ต วะ ไม่มีเลย เครื่องเราก็จับสัญญาณอะไรไม่ได้เลย นี่อยู่สีลมนะเนี่ย ไม่ใช่ ศรีสะเกษ วะ

เดินออกมาหน้าตึกเจอะท้อ ปซุปเปอร์มาเก็ต เดี๋ยวนี้มันทำหน้าตึีกอลังการขนาดนี้เลยเหรอนี่ เจอน้องคนนึง พุ่งเข้ามากะจะให้ช่วยบริจาค ให้องค์กร ยูนิเซฟ เค้าถามว่าเคยเห็นใบอย่างนี้ในซองบัตรเครดิตมั้ยคะ บอกเค้าไปว่า ไม่เคยครับ ไม่มีบัตรเครดิต เค้าดูแปลกใจเล็กน้อย แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่คะ ตกงานครับ ไม่ได้ทำงาน เลยไม่ได้เงินเดือน แล้วก็ไม่มีบัตรเครดิตด้วย อ้อ ค่ะ งั้นถ้าวันไหนพี่มีบัตรเครดิตแล้วอย่าลืมบริจาคนะคะ จบการหาประโยชน์จากเรา ตาเราหาประโยชน์จากน้องเค้าบ้าง น้องครับ จากนี่ไปผ่านฟ้าไปยังไงให้เร็วครับ (ตอนนั้น สามโมงแล้ว) อ๋อ พอดีหนูบ้านอยู่แุถวนั้นพอดีค่ะ (บุพเพสันนิวาส) หนูก็นั่งรถมอไซต์นะคะ ไปต่อรถไฟฟ้าลงสนามกีฬา แล้วก็ต่อมอไซต์ ค่ะ เร็วมากนะคะ ขอบคุณครับ แต่สรุปนั่งรถแทกซี่ (อ้าว)

รถแทกซี่พาไปทางหัวลำโพง เยาวราช ซอกแซกไปซักพัก ก็ถึงยังร้านหนังสือผ่านฟ้าจุดหมายของเรา ระหว่างอยู่ในรถก็กังวลใจ เอาคอมมาเปิดเช็คไวร์เลสตลอดว่าแถวไหนมีใครเปิดไว้ให้ใช้ฟรีบ้างมั้ย แต่ก็ไม่ได้เลย

ถึงร้านหนังสือแล้วรีบซื้อแล้วฝากเค้าไว้ บอกว่าเดี๋ยวกลับมา แถวผ่านฟ้า ถนน นครสวรรค์ (บ้านเราแท้ๆ) กลับไม่มีร้านอินเตอร์เน็ตเลย ตอนนั้น สามโมงครึ่งได้แล้ว ถามตำรวจ ถามมอไซต์รับจ้าง ถามเด็กนักเรียน(ซึ่งดูน่าจะเป็นลูกค้าหลัก) ก็ยังไม่ได้คำตอบ จนเจอป้าขายก๋วยเตี๋ยวบอกว่าตรงไปแถวถนนพะเนียงจะมีร้านนึง วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยมาก

ร้านที่เจอเป็นร้านเล่นเกมส์ออนไลน์เป็น หลัก เด็กแว้นสก้อยส์ กันเต็มร้านเลย แทรกตัวเข้าไปนั่ง จ่ายเงินเจ้สิบบาท เล่นได้ครึ่งชั่วโมง รีบเข้าเว็บ แล้วลงทะเบียนตามที่พี่นกโทรมาบอก รีบๆๆๆ อีกห้านาที จะสี่โมงแล้วเฟ้ย อ้าาาาาาาา ลงสำเร็จ ในที่สุด

เดินออก มากลับไปที่ร้านหนังสือ ผ่านโซนที่ขายกล้วยแขก หิวแฮะ แต่ไม่กิน ไปหาข้าวกินดีกว่า กลับไปที่ร้านหนังสือ ป้าเค้าบอกว่า นึกว่ากลับบ้านไปแล้ว ป้ากำลังเอานส.ไปเก็บแล้วนะเนี่ย จ่ายเงินป้า แล้วก็ออกมา ไปกินข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ฝั่งตรงข้าม กินไปคิดไปว่า เอ..แล้วเราจะไปสยามจากตรงนี้ยังไงวะ แทกซี่อีกหรือเปล่า มองไปทางไหนก็ไม่มีรถเมล์เลยแฮะ แล้วตอนเค้าประท้วงเสื้อแดง เค้าเอารถเมล์จากไหนมาเผาหว่า หรือว่า ที่ไม่มีเพราะว่าโดนเผาไปหมดแล้ว

ออก จากร้านข้าว เดินลงมาเรื่อยๆ ไปทางสนามม้านางเลิ้ง เพราะคิดว่าทางนั้นน่าจะไปโผล่กิ่งเพชร หรือ แุถวโรงพยาบาลมิชชั่นได้ เดินๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยอีกแล้ว เดินจนสุดถนนนครสวรรค์ ก็จะเจอสนามม้า แล้วไงต่อ ข้ามไปถนนอีกฝั่งดีกว่าเผื่อจะขึ้นรถอะไรก็ได้ไปทางนี้แหละ

ไฟแดงพอดี ข้ามๆๆ วิ่งๆๆๆ เดินมาถึงโรงเรียน ราชวินิต ที่มีป้ายรถเมล กำลังจะอ้าปากถามคนแถวนั้นพอดี

กริ้งๆ ตู้ดๆๆ โทรศัพท์ดังๆ สั่นๆ ยกขึ้นมาดู น้องหญิง (โทรมาทำไมหว่า)

ฮาโหลน้องหญิง

(ทำเสียงตื่นเต้น)พี่เติ้ง พี่เติ้ง อยู่ไหนอ้ะ

อยู่กรุงเทพแถวสนามม้า

เหรอๆ นี่พี่เติ้งเมื่อกี้ พี่เติ้งเพิ่งวิ่งข้ามถนนใช่มั้ย

เออ ใช่

นี่หญิงอยู่ในรถกับชัย รถมาสด้าสามสีขาว ติดอยู่ที่สี่แยกเนี่ย พี่เติ้งวิ่งมาขึ้นรถเร็วๆๆๆ เดี๋ยวไฟเขียว

เหรอๆๆๆ ไหนๆๆๆๆๆ (วิ่งๆๆๆๆๆๆ หาอีกแล้ว)

เจอ แล้ว โดดเข้าไปนั่ง เฮ้อ หัวเราะกันแทบตาย ฟลุ้กมากๆ กำลังหมดหวังทีเดียว พวกนี้กำลังไปเรียนเซอร์วิส ผมบอกว่า แต่แคทแมนไม่มีเรียน จะไปลอฟท์น่ะ ได้เลย เดี๋ยวไปส่งให้

โชคดีจริงๆ หิวน้ำมาก กินกาแฟที่เหลือของน้องหญิงจนหมดแก้ว แหะๆ

แต่ พอถึงที่แล้ว กลับเจอเรื่องแจ๊คพ๊อตอีก คือ คุณจินตนาที่บอกไว้ตอนแรก บอกว่า ยังให้ถ่ายไม่ได้นะคะ เพราะว่า ต้องขออนุญาตผู้ใหญ่อีกที อ้าว เวรกรรม แล้วทำไงดีวะมาถึงนี่แล้ว อุตส่าห์รีบมา เอาวะ งั้นก็ไปหาวิธีถ่ายนิดๆหน่อยๆพอละกัน

เจอเพื่อนในกลุ่มส่วนที่เหลือ แล้วก็ทำงานแคทแมนกัน

ถ่าย รูปแล้ว แบ่งงานแล้วก็ไปกินกันต่อที่ร้านประจำของพวกเราแถวศูนย์สิริกิติ์ ตอนแรก จะไปสวนลุมไนท์ แต่ว่าหาที่จอดรถไม่ได้เลยเปลี่ยนที่ดีกว่า

กินแล้วก็กลับบ้านมีนบุรี
----------------------------------------
อ่านมาจนจบแล้วคิดว่าไงครับ กิจกรรมในหนึ่งวันของผม อัดแน่นไปด้วยสาระ บันเทิง โชคดี โชคร้าย เยอะแยะนะครับ
แต่โดยรวมก็นับว่าโชคดีมากกว่านะครับ เช่น

- ได้ลงทะเบียนทั้งๆที่มันฉุกละหุกขนาดนั้น ถึงแม้เอาคอมมาก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าลงไม่ทันจะทำไงว้า
- ได้ซื้อหนังสือไปขายที่บ้านทันเวลา
- เจอหญิงกับชัยมารับไปสยามได้
- เอาของไปให้พี่บีทูเอสได้

ก็เลยจะบอกเพื่อนๆว่า ในเรื่องเฮงซวยประจำวัน มันก็แอบมีเรื่องดีๆ โผล่เข้ามาบ้างได้นะครับ อย่าเพิ่งหมดหวังในการดำเนินชีวิตนะครับ
เอาเรื่องหนึ่งวันของเพื่อนๆมาแชร์กันบ้างสิครับ

Thursday, January 22, 2009

จริงๆมันก็ดึกแล้ว

จริง ๆ มันก็ดึกแล้ว ตีหนึ่งกว่า ๆ เพิ่งกลับจากไปประชุม กลุ่มรวมพลคนเหงาประจำท้องถิ่น ทุกคนคุยกันเรื่องว่า ในสัปดาห์ทีผ่านมาใครทำอะไรมาบ้าง เฮียปั้ม ก็คุยเรื่องไปเที่ยวภาคเหนือด้วยการขับรถมา ดูแล้วน่าอิจฉามิใช่น้อย

เราไม่ได้ไปภาคเหนือนานหรือยังนะ ครั้งล่าสุดไปไกลถึงไหน น่าจะตอนไปส่งหนังสือ อาจารย์ อะไรซักอย่าง ที่ แม่สอด ไม่ใช่ ไกลกว่านั้น แยกขวา ไปไกลๆ จำชื่ออ.ไม่ได้แล้ว แม่อะไรซักอย่าง ไปหามาแล้ว แม่ระมาด แต่โรงเรียนชื่อ แม่จะเรา ไปส่งหนังสือ ได้ไปดูตลาดริมเมย เนินพิศวง และ ตลาดดอยมูเซอ ด้วย

แต่นั่นไปทำงาน นอกจากนั้น ก็ย้อนไปถึงการไปเที่ยว ภูกระดึง ตอนเรียนจบใหม่ และ การไปเที่ยวพิษณุโลกตอนไปกับกลุ่มคนเหงาฯ

อ้าว แล้วทำไมไม่ได้เขียนบล้อกตั้งนานแล้วเกิดอะไรขึ้นถึงมาเขียนล่ะวันนี้

พอดีเคยไปคอมเม้นท์บล้อกหนึ่งเกี่ยวกับงานตรุษจีนนครสวรรค์ แล้ว ปีนี้เค้ากลับมาทำใหม่ อับเดทข้อมูลเดิม เขาก็เลยเข้ามาคอมเม้นท์ทิ้งไว้ว่าเขาทำเว็บต่อแล้วนะให้เข้าไปดู เราก็เลยเข้าไปดู เลยนึกได้ว่าเราก็มีบล้อกเหมือนกันนี่หว่า แล้วก็เข้ามาก็แวะไปดูบล้อกของทศ มาอีกคน มีการเอ่ยถึงเราว่าไปเที่ยวสกลนครด้วยกัน ที่งานแต่งงาน แบงค์กับคุณผึ้งด้วย

ถ้าให้เราเล่าเรื่องสกลนั่นก็ยาวมากๆเหมือนกันครับ ก็อาจจะต้องหาโอกาสอื่นเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ

อับเดทไว้เพราะคิดว่าไปคอมเม้นท์ในบล้อกคุณทศ มา คุณทศต้องรู้และลิงค์กลับมาแน่นอน

เรื่องที่อยากคุยเกี่ยวกับปีที่ผ่านมานั้นมีมากมาย จนคิดว่าไม่สามารถเขียนในวันเดียวนี้ได้ งั้น ต้องรอติดตามตอนต่อไปนะครับ คิดว่าจะมาอับให้อ่านกันบ่อยๆ นะครับ