Sunday, January 20, 2013

ไปเที่ยวเชียงใหม่ ธ.ค.2555 (วันที่1)

รอมาหลายวัน ในที่สุดก็ว่างมาเขียนเสียทีนะครับ

ไปเชียงใหม่มาเมื่อวันที่ 21-25 ธันวาคม 2555 ครับ โดยไปประชุมของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด่อยโอกาสและผู้สูงอายุ หรือที่เรียกกันย่อๆว่า สท. เรื่องเกี่ยวกับการจัดการงบประมาณของสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดต่างๆ ในเขตภาคเหนือช่วงวันที่ 22-23 ครับส่วนที่เหลือก็ขอเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่บ้าง เพราะว่าไม่ได้ไปนานแล้วครับ เขาต้องการตัวแทนจากหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 1 คน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน เด็กที่เป็นตัวแทนสภาเด็ก 2 คน และตัวแทนเครือข่ายภาครัฐภาคเอกชน 2 คน (ผม1คนจากหอการค้าจังหวัดนครสวรรค์ และ อาจารย์อีก1คนจากสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 2)

การเดินทางเริ่มต้นด้วยการนั่งรถทัวร์นิววิริยะยานยนต์ทัวร์เวลา 11.30 น. จากศูนย์ท่ารถนครสวรรค์ ซึ่งตัวเราเองก็จำเวลาผิดพลาดไปเล็กน้อย เพราะมารอเขาตั้งแต่ 11.00 น. ครับ รถมาช้าเล็กน้อย คุณมะปรางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของพมจ.ที่จะเดินทางไปด้วยกัน พาเด็ก2คนมาพบกัน พวกเรา 4 คน จะเดินทางไปกันด้วยรถทัวร์ ส่วนอีก 2 คนนั้นเขาจะเอารถส่วนตัวกันไปเอง ขึ้นรถได้แนะนำตัวกันนิดหน่อยพอ ผมก็เริ่มหลับเลยครับ เพราะคืนก่อนหน้านี้เก็บงานดึกมากไม่ค่อยได้นอนครับ

ออกรถมาได้เลยเขาหน่อมาหน่อยเดียวก็ถูกปลุกขึ้นมากินข้าวที่ร้านขายของฝากแห่งนึง มีการแจกคูปองและไปแลกข้าวแกงได้1จาน ถ้าจะกินอย่างอื่นเช่นก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ต้องเพิ่มตังค์เอง ผมยังไม่ค่อยหิวก็เลยกินข้าวแกง(เย็นๆ) ละกัน แล้วก็ขึ้นมานอนต่อ รถทัวร์เปิดหนัง action เรื่องอะไรให้ดูไม่รู้ เพราะจอทีวีมันสะท้อนแสงจากข้างนอกทำให้ดูไม่รู้เรื่องเลย พยายามข่มตานอนแต่เสียงปืนก็ยังมากวนเรื่อยๆ

รถทัวร์ผ่านกำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน แวะที่บขส.ของแต่ละจังหวัดเพื่อรับคนตลอดทางก็ดีเหมือนกันจะได้ดูบ้านเมืองของเขาบ้าง บขส.ตากไม่ค่อยมีอะไรมาก บขส.ลำปางเหมือนอยู่ในชุมชน ค่อนข้างพลุกพล่านทีเดียว จากตัวเมืองลำปาง รถทัวร์แล่นเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปางเชียงใหม่ 

(เข้าใจผิดมาตลอดว่า ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ยาวถึงเชียงใหม่ จริงๆแล้ว พอผ่านลำปางแล้ว มันก็เลี้ยวขึ้นไปทางเชียงรายเลย)

ระหว่างทางผ่าน อ.ห้างฉัตร ขึ้นภูเขาเล็กน้อย มีอุบัติเหตุรถบรรทุกคว่ำข้างทางทำให้การเดินทางน่าตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย แต่เห็นคนเขาบอกว่ามันคว่ามาหลายวันแล้วยังไม่มีใครมายกให้น่ะ ลงจากภูเขาแล้ว ก็เข้าสู่จังหวัดลำพูน (อันนี้ก็เป็นความเข้าใจที่ผิดเหมือนกันเพราะคิดว่าจากลำปางแล้วเข้าเชียงใหม่เลย) แป้บเดียวก็ออกจากจังหวัดลำพูนแล้วเข้าสู่เชียงใหม่ทาง อำเภอสารภีครับ

รถเข้าไปจอดที่อาเขตแห่งที่ 3 ริมถนนไฮเวย์นั่นเอง ลงมามึนๆกัน 4 คน เพราะนั่งรถนานมาก ถึงเชียงใหม่ประมาณ 5 โมงเย็นได้ คุณมะปรางแจ้งว่าเพื่อนที่เธอนัดว่าให้มารับพวกเราไปโรงแรมเชียงใหม่ออคิดส์นั้นไม่รู้จักโรงแรมจึงไม่สามารถมารับเราได้ พวกเราจึงต้องหาทางไปเองด้วยรถสี่ล้อแดง ซึ่งได้ยินกิตติศัพท์ทางแง่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวกันมาช้านาน แต่คราวนี้ก็ดูเหมือนจะมีป้ายบอกราคาชัดเจนเราก็บอกเขาว่าเราจะเหมาไป4คนไปโรงแรมกัน เขาก็ตกลงที่ราคา 150 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะ)

บรรยากาศภายนอกเริ่มมืดลงเรื่อยๆ รถแดงพาลัดเลาะตามซอกซอยไปเรื่อยๆ ผมดูแผนที่ประกอบตลอดเพราะกลัวหลงและกลัวรถแดงจะหลอกเอา งงๆ กันหน่อยตอนแรก แต่สุดท้ายก็มาโผล่ที่หน้ากาดสวนแก้วข้างๆ โรงแรมจนได้ จ่ายค่ารถไปและเช็คอิน สำหรับนครสวรรค์และอุทัยธานี ได้รับสิทธิ์พิเศษในการเดินทางมาล่วงหน้าได้ 1 วันและมีห้องนอนด้วยเพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ไกลที่สุดที่มาประชุมในครั้งนี้ครับ

เอาข้าวของเก็บแล้วออกไปเดินหาอะไรกินกันดีกว่าเรา4คนออกเดินหันหน้าไปทางดอยสุเทพตามแผนที่แนะนำที่กินที่เอามาด้วย โดยวางแผนว่าจะไปหาอะไรกินกันหน้า มช. ระหว่างทางผ่านร้านอาหารข้างทางหลายร้าน จริงๆ ก็หิวแล้วน่าจะแวะกิน แต่เข้าใจว่าจากกาดสวนแก้วไป มช. ไม่น่าจะไกล แต่จริงๆ แล้วไกลมากๆครับ สุดท้ายก็ยอมแพ้ เลิกเดิน ไปแวะกินเอาที่ร้านอาหารตามสั่งชื่อ ครัวเบญจ อยู่ใกล้ๆ กาดรินคำ

วีรกรรมแรกเกิดขึ้นที่นี่ล่ะครับ พวกเรา4คนหิวโซมาก ร้านมีลูกค้านั่งอยู่ 2 โต๊ะก่อนหน้าเรา เราเข้าไปนั่งแล้วก็เอาเมนูมาเปิดดูเลย ราคาพอประมาณไม่เป็นปัญหา รอคนมาจดรายการไม่มาเสียทีก็เริ่มหงุดหงิด เอากระดาษมาจดกันเองละกัน พอจดเสร็จ พี่เจ้าของร้านที่เป็นแม่หรือพ่อครัว ก็ออกมารับออเดอร์เอง (พี่เขาเป็นกระเทยอ้ะนะ) พี่เขาอ่านรายการที่เราสั่งแล้วบอกว่า "นี่ของมันจะหมดแล้ว รับพวกเธอเป็นโต๊ะสุดท้ายแล้วนะ" พลางอ่านรายการที่เราสั่งแล้วถามว่า "นี่จะเอาตามที่อยากกินหรือเอาตามใจแม่ค้าคะ ถ้าตามใจแม่ค้าก็เร็วหน่อยค่ะ" ถามแบบนี้ก็ต้องตอบตามใจแม่ค้าสินะ พี่เขาก็ปรับเปลี่ยนรายการอาหารที่เราสั่งให้ตรงกับของที่เธอมีในครัว เรียบร้อยก็รีบหันหลังเดินเข้าครัวไป ทิ้งพวกเราหัวเราะกันเอิ้กอ้ากลืมความหิวไปชั่วขณะเลย พวกเรา2คนเดินออกไปซื้อขนมมากินจากกาดรินคำที่อยู่ข้างๆ กันระหว่างรอ อาหารทะยอยมากินกันจนอิ่มแปล้ พี่แม่ครัว ออกมายืนสูบบุหรี่พิงกับประตูร้าน พลางชวนคุย พี่เขาจบดร.ทางการเงินมาจากเยอรมันแล้วเพิ่งมาเปิดร้านไม่นานเพราะเบื่องานที่ทำที่นั่น พี่เขาสูบบุหรี่ไปก็ไล่ลูกค้าที่เพิ่งจะเข้ามาออกไปพลางขอโทษว่าอาหารหมดแล้ว พวกเราถือว่าโชคดีเหมือนกันเพราะไม่อย่างนั้นจะต้องเดินย้อนไปกินอาหารญี่ปุ่นบ้าง สเต็กบ้าง ตามทางที่เดินผ่านมาเป็นแน่ทีเดียว



อิ่มแล้วค่อยมีพลังหน่อย เดินย้อนกลับมาที่แยกนิมมานเหมินทร์ พี่แม่ครัวบอกว่าให้ระวังให้ดี ถนนนี้มีแต่อาหารแพงๆ เดินดูแล้วระวังให้ดี พวกเราก็ขอเข้าไปเดินเล่นกันหน่อย ตอนต้นถนนทางถ.ห้วยแก้วดูเหมือนไม่คอ่ยมีอะไรมาก ตึกแถวค่อนข้างร้างๆ ซัก100 เมตรก็จะเริ่มมีร้านค้า ร้านอาหาร เป็นร้านระดับค่อนข้างดีทีเดียว พวกต่างถิ่นอย่างเราเดินดูกันอย่างตื่นตาตื่นใจ และแวะเข้าไปถ่ายรูปกันใน Kantary hill เป็นเหมือน ร้านอาหารและ community mall ในตัว ต้นคริสมาสต์เขาสวยดีทีเดียวครับ

ขาเดินกลับออกมาแวะร้านกาแฟกูซื้อชาเย็นไมโลดิบกินแก้วนึงเพราะเห็นว่าชื่อร้านแปลกดีและดูเป็นที่นิยมของวัยรุ่น มีลูกค้าแต่งชุดนักศึกษาเยอะเลยเหมือนกัน เป็นร้านห้องเดียวแต่คนแน่นเลยครับ (ข้อคิดที่ได้จากการกินไมโลดิบคือ คนให้ละลายหมดเลย แล้วค่อยดู ถ้าดูจนน้ำหมดแล้วจะลำบากมากในการควานคอร์นเฟลกขึ้นมากินครับ) เดินกลับมาโรงแรม แล้วมาดูแผนที่ถึงได้รู้ว่าเราเดินไปกันไกลเหมือนกัน และ เป้าหมาย หน้า มช. ที่เราวางแผนนั้น ไกลมากๆ ครับ

กลับมาถึงห้องแล้ว ถึงพบว่ารูมเมทของผมย้ายห้องไปเสียแล้วครับ ตอนแรกถูกจัดให้นอนกับคุณครูที่มาจาก สพม.42 แต่มาทราบทีหลังว่าคุณครูมากับแฟน เขาเลยขอเปิดห้องใหม่ครับ ส่วนคนที่จะมานอนกับผมคืนนี้นั้น ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร รอจนแล้วจนรอดก็ยังไม่มา ก็เลยอาบน้ำนอนเลยละกัน นอนคนเดียวนี่ล่ะ

จบไป 1 วันก่อนนะครับ สูญเสียความสามารถในการเล่าเรื่องยาวๆ หรือการปะติดปะต่อเรื่องไปตั้งแต่เล่นทวิตเตอร์ อ่านๆแล้วงงๆ ก็ลองถามดูนะครับ แหะๆ พรุ่งนี้มาเล่าต่อนะครับ

No comments:

Post a Comment