Friday, February 17, 2006

เตี่ยส่งให้เสี่ย

ไปร่วมงานของสำนักพิมพ์หนังสือแห่งหนึ่ง มีการบรรยายเรื่อง เตี่ยส่งให้เสี่ย ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับการส่งมอบและสืบทอดกิจการให้กับ บุตรหลาน
อาจารย์ผู้อบรมให้ความรู้ดังนี้

สิ่งที่กำลังหายไปในยุคใหม่นี้
ภาษีที่ลดลงเรื่อยๆจากการเปิดเสรีต่างๆ
ระยะทางลดลงเรื่อยๆ จากการมีเทคโนโลยีต่างๆ
ข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนเปรียบว่าใครมีข้อมูลคือมีอำนาจ

เท่าที่อาจารย์สังเกตดูคนที่จะอยู่รอดในสังคมยุคใหม่นี้ จะต้องทำสี่อย่างคือ
เรียน เล่น ทำงาน และเข้าสังคม

การจะถ่ายทอดกิจการให้กับใครนั้นก่อนอื่นต้องคุยกันก่อนเพื่อดูทัศนคติเกี่ยวกับการทำธุรกิจและเรื่องต่างๆ การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนั้นบ้างก็เปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป บ้างก็เปลี่ยนเร็วๆ หรือที่เรียกว่า กระบวนทัศน์ (paradigm shift) (ยังฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่) การเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันตัวอย่างเช่น คนเราเห็นลูกโป่งลอยได้เลยคิดว่า คนเราถ้าอยากจะลอยได้บินได้ก็ต้องทำตัวให้เบา ก็เลยสร้างบอลลูนขึ้นมา แล้วก็พยายามลอยไปข้ามมหาสมุทร แต่ก็ไม่สำเร็จซะที ลองไปตั้ง 200 ปี จนพี่น้องตระกูลไรท์ ทำเป็นเครื่องร่อนที่แปลงมาจากจักรยาน

การเปิดสาขาของธนาคารตอนแรกก่อนฟองสบู่แตกเป็นการเพิ่มสินทรัพย์ แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นหนี้สิน เป็นค่าใช้จ่ายที่ธนาคารพึงมี ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยหากธนาคารใดปิดสาขาย่อยไปบ้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายนั่นเอง

อ้าเหนื่อย ขี้เกียจพิมพ์แล้ว เดี๋ยวมาต่อนะ

1 comment:

  1. ต่อนะครับ

    ความมั่งคังในยุคที่ 1 คือการเป็นผู้ผลิตสินค้า โรงงานต่างๆ ในยุคอุตสาหกรรม เน้นเรื่องการซัพพลายสินค้าให้กับคนจำนวนมากๆ มีสินค้าสำเร็จรูปต่างๆ

    ความมั่งคั่งในยุคที่ 2คือการขนส่งและกระจายสินค้า คือเมื่อมีสินค้ามากแล้ว การขนส่งก็ตามมาเพื่อให้การกระจายสินค้าไปได้กว้างที่สุด การขนส่งก็เริ่มสร้างความมั่งคั่งได้

    ความมั่งคั่งในยุคที่ 3 คือการค้าปลีก ค้าส่ง เมื่อไล่มาจนถึงปลายทาง คนที่จะมั่งคั่งได้ต่อไปก็คือ คนที่ทำการค้านั่นเอง

    เรามาพูดกันเรื่องห้างสรรพสินค้าบ้างดีกว่า

    ตามหลักเกณฑ์แล้ว ห้างสรรพสินค้าจะต้องมีพื้นที่ มากกว่า 50000 ตารางเมตร ซึ่งก็จะเป็น shopping mall มาตรฐาน เช่น ซีคอนสแควร์ มี 200000 ตารางเมตร ซึ่งต้องมีนักอุตุนิยมวิทยาส่วนตัวของอาคาร เพื่อควบคุมบรรยากาศ

    ซีคอนเปิดและครองตำแหน่งห้างใหญ่ที่สุดในเมืองไทย 10 ปี และถูกชิงแชมป์ด้วย สยามพารากอน ซึ่งมีพื้นที่ถึง 500000 ตารางเมตร และสยามพารากอนจะครองแชมป์อยู่เพียง 10 เดือนเท่านั้น เพราะยักษ์ใหญ่รายใหม่ คือ Central World Plaza จะเข้ามาเขย่าวงการ ด้วยพื้นที่ถึง 700000 ตารางเมตร

    การทำงานในสมัยใหม่นี้ ต้องอาศัย ทั้งการวิ่งมาราธอน และวิ่งผลัด คือ ทั้งต้องอดทน และต้องรู้จักทำงานเป็นทีม

    เท่าที่วิทยากรฟังๆเถ้าแก่ปัจจุบันมา มีเรื่องที่เค้ากังวลกันอยู่ 5 อย่าง คือ
    1.ห่วงสุขภาพ
    2.ห่วงอนาคตของร้านและครอบครัว
    3.ห่วงคุณภาพชีวิตของลูกหลาน ความสมดุลในการดำรงชีวิต (ความปรองดอง)
    4.ห่วงเรื่องความยั่งยืนของทุกอย่าง
    5.ความพอเพียง ความสงบ และความสบายใจ

    การแข่งขันในยุคเก่า (ตะวันตก)
    1.ต้นทุนต่ำสุด/ขายของเยอะๆ (scale) ใครใหญ่สุดคนนั่นชนะ ซึ่งไม่จริง
    2.การแข่งขันเรื่องความเป็นมาตรฐาน (standard and system)
    3.การแข่งขันที่ความเป็นพิเศษ (ตามสั่ง special/tailormade)

    ตะวันออก ค้าปลีกรุ่งเรื่องแห่งอนาคต
    1.การทำอะไรที่ตัวเองถนัดที่สุด (scope) ของเก่ามันเป็นครบวงจร ของใหม่ต้องเฉพาะเจาะจง
    2.เน้นความเร็ว เร็วเรื่องตัดสินใจ (speed)เร็วเรื่องบริการลูกค้า เร็วเรื่องแก้ปัญหา
    3.Synergy คือ 1+1=3 การฮั้วกันแบบบวก คือ การมี กัลยาณมิตร
    4.flexible คือการยืดหยุ่นอย่างมีหลักการ
    5.New คือการต้องมีอะไรใหม่ๆ บ่อยๆ ให้ก่อนคนอื่น

    เตี่ย
    1.ไม่ค่อยมีทางเลือก มีสมาธิดี
    2.รู้ค่าของเงิน (เพราะหามายาก)
    3.รู้ว่าอะไรดี ไม่ดี
    4.มีประสบการณ์ตรง
    5.ทำงานคือชีวิต
    6.ขี้น้อยใจ เหงา sensitive
    7.จะคาดการในแง่ร้ายไว้ก่อน
    8.ไม่มีกระบวนการเลย ไม่วางแผน ลุยเลย
    9.ให้ค่านิยมเกี่ยวกับคน ไม่เน้นระบบ
    10.ยึดความพลุกพล่านของธุรกิจเป็นดี (คนเยอะยุ่ง ไม่รู้ว่าขายของดี หรือว่า ร้านไม่มีระบบกันแน่)

    ของเสี่ยบ้าง
    1.เรียนสูง ขาดสมาธิ เพราะคิดหลายเรื่อง
    2.เงินหาง่าย ทำให้ไม่รู้ค่าของเงิน
    3.มีสังคม เครือข่ายกว้างขวาง
    4.ครอบครัว มั่นคงแล้ว เป็นที่รู้จัก
    5.แยกออกระหว่างชีวิตกับงาน
    6.ขาดพลังใจ เจออุปสรรคแล้วท้อ
    7.ไม่ค่อยอดทน
    8.ทำอะไรห่วงรูปแบบ ฟอร์มเยอะ
    9.มีความเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ
    10.ชอบความคึกคัก ทำมาหากิน เที่ยวเล่น

    ต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ขององค์กรในอนาคต
    1.ไม่มีสิ่งไหนมั่นคงตลอดกาล ใช้ลูกแล้วพลาด ก็จะรู้ว่า ลูกโง่ แต่ลูกไม่ได้โกงนะ ถ้าคนอื่น ก็จะไม่แน่ใจ
    2.ตั้งโครงการ line ธุรกิจที่แตกต่างออกไป
    3.สร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจร่วมกัน (อย่าหลบหนีข้อมูล วิ่งเข้าหาเพื่อหาโอกาส)
    4.ความรู้สึกชอบมาทีหลัง ให้ส่งเสริมเรื่องทอนตังค์ ดูแลลูกค้า
    5.ทำอะไรให้มีมาตรฐาน

    มีข้อส่งท้ายดังนี้
    1.การมอบต้องมอบตอนทั้ง 2 ฝ่ายพร้อม
    2.ไม่ต้องทำหมด
    3.มอบในจุดที่พอดี (การจ่ายเงินเดือน การขยายร้าน เป็นต้น)
    4.การมีมืออาชีพ (เชิญมาสอน เป็นที่ปรึกษา)

    อีกหัวข้อซึ่งจำไม่ได้
    1.ขอให้มีความอดทน ไม่ใช่ภาระ ให้ถือว่า เป็นของเรา
    2.ทำไปบ่นไป ดีกว่าบ่นแล้วไม่ทำ
    3.หาที่ปรึกษา ธนาคาร และเพื่อน
    4.ทำคนเดียวไม่เป็นHero คนเกรงใจ ควรมีพี่น้องมาช่วย

    จบแล้วครับ

    ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยเนอะ วันนี้อาจารย์พูดไม่ค่อยดีเลย

    ReplyDelete